องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) ร่วมกับ สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (ISMED) สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดตราด สถานีโทรทัศน์ Travel Channel ผนึกกำลังรับกระแสโลกสู่การท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ปลุกท่องเที่ยวอินเทรนด์ Low Carbon Holiday 2015 วันที่ 13 - 15 พฤศจิกายน 2558 ที่ผ่านมา ณ 4 เกาะของจังหวัดตราด เกาะกูด-เกาะหมาก-เกาะช้าง-เกาะหวาย เปิดประสบการณ์นักท่องเที่ยวให้ประทับใจกับการท่องเที่ยวที่ลดการปลดปล่อยคาร์บอน และช่วยกันดูแลธรรมชาติและท้องทะเล
ดร.ชูวิทย์ มิตรชอบ รองผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) กล่าวว่า “องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. ได้พัฒนา ส่งเสริมภาคีเครือข่ายมากว่า 10 ปี และได้พัฒนาต้นแบบการท่องเที่ยวโลว์คาร์บอนที่เกาะหมาก ในปีนี้เราร่วมกับภาคีเครือข่าย สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดตราดเพื่อสร้างความยั่งยืนให้แก่ภาคการท่องเที่ยวไทย โดยนำร่องสร้างสรรค์โปรแกรมการท่องเที่ยวสไตล์โลว์คาร์บอนที่นักท่องเที่ยวจะได้มีส่วนร่วมดูแลธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมซึ่งการจัดงานครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก เนื่องจากนักท่องเที่ยวเกิดความประทับใจและได้เปลี่ยนมุมมองการท่องเที่ยวไปจากเดิมเกิดจิตสำนึกการท่องเที่ยวที่ดูแลรับผิดชอบแหล่งท่องเที่ยวมากขึ้นและต้องการให้มีโปรแกรมเช่นนี้อีก”
“ปัจจุบันนี้ การท่องเที่ยวได้มีความหมายมากกว่าเดิม นักท่องเที่ยวเริ่มนิยมเดินทางท่องเที่ยวเพื่อไปสัมผัสความเป็นธรรมชาติ ซึมซับกับบรรยากาศของท้องถิ่น ชุมชนพร้อมๆไปกับความเพลิดเพลินกับกิจกรรมการท่องเที่ยว นี่เป็นมุมใหม่ของการท่องเที่ยวที่เพิ่มมิติของความสุขมากขึ้นจากการท่องเที่ยวทั่วไป ด้วยการให้นักท่องเที่ยวเข้าไปมีส่วนดูแลธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม อุดหนุนสินค้าชุมชน ซึ่งชุมชนนี่เองที่เป็นผู้ดูแล รักษาแหล่งท่องเที่ยวให้ยังคงงดงามอยู่เสมอ” พร้อมย้ำว่า “นี่เป็นทริปแรกของการท่องเที่ยวสไตล์โลว์คาร์บอนและได้รับการตอบรับที่ดีมากจากนักท่องเที่ยว จึงเป็นผลสำเร็จที่น่าภาคภูมิใจของภาคีต่างๆและสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดตราด เป็นสัญญาณชัดว่าพื้นที่พิเศษนี้เป็นจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของประเทศไทย” ดร.ชูวิทย์ กล่าวเสริม
นายชาญศักดิ์ ถวิล รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด กล่าวว่า การจัดงาน Low Carbon Holiday 2015 ในครั้งนี้ เป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ของนักท่องเที่ยวที่เกิดขึ้นจริงในจังหวัดตราด ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีความพร้อมมากในการรองรับการเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เนื่องจากมีทรัพยากรที่มีความอุดมสมบูรณ์ ธรรมชาติสวยงาม และมีสถานประกอบการโรงแรมและรีสอร์ทที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอยู่ในหมู่เกาะช้างและพื้นที่เชื่อมโยง
ในมุมมองของกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ นายธนันธน์ อภิวันทนาพร ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจต่างประเทศและการตลาด ISMED ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า “กิจกรรมต่างๆ ในทริปโลว์คาร์บอนจะช่วยสร้างประสบการณ์ ความประทับใจต่อแบรนด์ซึ่งเป็นไปตามแผนกลยุทธ์ปั้นแบรนด์โลว์คาร์บอน ที่ อพท. ดำเนินการไว้ “Like-Love-Loyal” ในปีแรกเป็นการสร้างการรับรู้ของแบรนด์ และในปีต่อมา เป็นการมีส่วนร่วมของนักท่องเที่ยวกับแบรนด์ผ่านกิจกรรมต่างๆ และในระยะต่อไป นำไปสู่การสร้างคุณค่าให้นักท่องเที่ยวประทับใจและอยากมาซ้ำ ให้เกิดเป็นแบรนด์ในดวงใจของนักท่องเที่ยว
นายจักรพรรดิ ตะเวทีกุล นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดตราด เผยว่า ขณะที่เราอาจได้ยินข่าวว่าบางแหล่งท่องเที่ยวประสบปัญหาเสื่อมโทรม แต่จังหวัดตราดเรายืนหยัดการท่องเที่ยวเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งทำไม่ง่ายเลยทีเดียว ทว่า เราได้รับการสนับสนุนจากหลายภาคส่วน โดยเฉพาะ อพท. ที่ช่วยเป็น พี่เลี้ยงผลักดัน Low Carbon Tourism มาโดยตลอด จนกลายเป็นเทรนด์การท่องเที่ยวเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม กิจกรรม Low Carbon Holiday ในครั้งนี้จะยิ่งช่วยผลักดันภาพลักษณ์จังหวัดตราดให้เป็นจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวคุณภาพ นั่นเป็นความยั่งยืนของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่พวกเราต้องการ เราจึงพยายามกระตุ้น รณรงค์การท่องเที่ยวทุกภาคส่วนให้ดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม
“โปรแกรม Low Carbon Holiday 3 วัน 2 คืน ได้ประมาณการวัดค่า การปลดปล่อยคาร์บอนของการทำกิจกรรมท่องเที่ยวภายในงาน Low Carbon Holiday โดยการท่องเที่ยวแบบโลว์คาร์บอน ได้ถูกสร้างสรรค์ตั้งแต่ การเดินทางโดยรถ-เรือสาธารณะที่มีความสะดวกสบาย การเข้าพักสถานประกอบการที่ดูแลสิ่งแวดล้อม การทานเมนูอาหารโลว์คาร์บอนเน้นใช้วัตถุดิบจากท้องถิ่นเพื่อลดการขนส่ง และร่วมกิจกรรมท่องเที่ยวที่ดูแลธรรมชาติเพื่อเพิ่มการดูดซับคาร์บอนเพื่อสร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยว ได้แก่ การปลูกปะการัง การปลูกต้นไม้ การปล่อยเต่า และปลา เพื่อคืนความสมดุลให้กับทรัพยากรธรรมชาติ ตลอดจน ในงานยังมีไฮไลท์ในรูปแบบเรียลลิตี้โชว์จากเชฟชั้นนำ แสดงศิลปะการปรุงอาหารเมนูโลว์คาร์บอนเน้นวัตถุดิบในท้องถิ่น ซึ่งเป็นโปรแกรมต้นแบบการท่องเที่ยวที่ช่วยลดการปลดปล่อยคาร์บอน เราได้เทียบเคียงพบว่า สามารถลดการปลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 56% กว่าทริปปกติครับ”
ผมขอย้ำว่า ปัจจุบัน ภาพลักษณ์เกาะหมากโลว์คาร์บอนได้ถูกรับรู้ และเผยแพร่อย่างแพร่หลาย ดังเช่น การประกวดมิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล 2015 ที่ผ่านมา จึงทำให้เราถูกเผยแพร่ไปสู่สายตานานาชาติว่าเป็น จุดหมายปลายทางของการเป็นแหล่งท่องเที่ยวคุณภาพ Low Carbon Destination ได้อย่างสมความภาคภูมิ และจะพยายามรักษาภาพลักษณ์เช่นนี้ต่อไป